ผู้ติดตาม

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ผีในทางวิทยาศาสตร์




ผีในทางวิทยาศาสตร์
ได้มีนักวิทยาศาสตร์ชื่อ โดนัลด์ จี คาร์เพนเตอร์ (Dr. Donald G. Carpenter) ศึกษาสิ่งที่เรียกว่าผีจากรายงานทั่วโลกและได้ข้อสรุปทางฟิสิกส์ต่าง ๆ ดังนี้
นิยามของคำว่าผี
1. ผีอยู่ภายใต้กฏของฟิสิกส์
2. ผีไม่ใช่เรื่องมายากล ไม่ใช่ปาฎิหาริย์ และไม่ใช้เรื่องนอกเหนือกฎธรรมชาติข้อใด ๆ ทั้งสิ้น (ตามที่สันนิษฐานไว้ในข้อ 1.)
3. ผี (Ghost), การหลอกหลอน (poltergeist), วิญญาณ (Soul) ล้วนเกิดขึ้นมาจากสาเหตุเดียวกัน แต่เป็นปรากฏการณ์ในรูปแบบต่างกัน
4. ผี (จากกฎข้อ 1 แล้ว) นับเป็น "สิ่งที่มีตัวตน" ควรจะมีคุณลักษณะคล้ายคลึงกันโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นผีตามความเชื่อของชนชาติใด ๆ ก็ตาม
5. ในการปรากฏกายของผีโดยเฉลี่ยแล้ว "ร่าง" ของผีจะกินเนื้อที่เป็นปริมาณ ประมาณ 0.07 ลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นปริมาตรเฉลี่ยเท่ากับคนธรรมดาที่มีน้ำหนักตัวประมาณ 70 กิโลกรัม
มาตรฐานการพบเห็นผี (Standard Night time Ghost : SNG)
- กรณีแรก เกิดขึ้นโดยตรงกับสมองของผู้ประสบเหตุ อาจเกิดจากการรบกวนกระบวนการไฟฟ้าชีวเคมีในสมอง ทำให้ประสาทและระบบรับความรู้สึกเกิดความผิดเพี้ยน โดยเฉพาะในส่วนของมันสมองและไขสันหลัง (หรืออาจจะเรียกว่า "ประสาทหลอน" ก็ว่าได้) หรือไม่ก็เกิดจากการกระตุ้นให้สมองเกิดภาพหลอนขึ้นเอง โดยสิ่งเร้าภายนอก โดยอาจใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีขนาดพอเหมาะยิงตรงไปยังสมองก็เป็นได้ หรือเกิดการควบคุมสภาวะแวดล้อมบางอย่าง ซึ่งมีผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์ความรู้สึก (ซึ่งเรียกว่า "ถูกควบคุมหรือถูกทำให้เกิดประสาทหลอน")
ซึ่งกรณีนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าผีไม่มีจริงในโลก
- กรณีที่สอง ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าผีมีจริง ซึ่งหากไม่ใช่กรณีแบบสมมติฐานแรก สามารถแบ่งการปรากฏของผีได้ 7 ข้อ ดังนี้
1. ผีปรากฏตัวทั้งในเวลากลางคืนและกลางวันในเวลากลางวันมีการพบเห็นน้อย การปรากฏตัวแต่ละครั้งกินเวลายาวนานไม่แน่นอน
2. ผีสามารถเปล่งแสงสว่างหรือเรืองแสงในตัวเองได้ โดยต้องมีกำลังส่องสว่าง อยู่ในช่วงความเข้มแสงประมาณ 1-20 แรงเทียน จึงจะทำให้สายตามนุษย์สามารถมองเห็นได้
3. การปรากฏตัวของผีจะทำให้บรรยากาศโดยรอบมีอุณหภูมิลดลงอย่างเฉียบพลัน เนื่องจากผีต้องดึงเอาพลังงานความร้อน ในบรรยากาศอย่างน้อย 60 จูลส์ เข้าไปสะสมทำให้ตัวเองเปล่งแสงออกมาได้
4. การปรากฏกายของผีต้องมีเครื่องนุ่งห่มด้วย และมักปรากฏในลักษณะเป็นภาพราง ๆ โปร่งแสงมองทะลุได้บ้าง และมีขนาดเล็กกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป
5. ผีจะปรากฏในสภาพที่หันหน้าเข้าหาผู้พบเห็นบ่อยครั้งกว่าหันหลัง
6. ผีมักปรากฏตัวในร่างของมนุษย์หรือเหมือนมนุษย์ (ประมาณ 90 เปอร์เซนต์ เท่าที่มีการศึกษา) มีน้อยมากที่ปรากฏตัวในร่างของสัตว์
7. มักจะมีเสียงหรือกลิ่นเกิดขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของผีในแต่ละครั้ง
และหากไม่เข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งใน 7 ข้อนี้ ไม่นับว่าเป็นผี



1 ความคิดเห็น: